วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554

ความแตกต่างระหว่างระบบ MLM และระบบปิรามิด

มาดูรูปแบบของปิรามิด หรือ แชร์ลูกโซ่ ก่อนครับว่าลักษณะเป็นอย่างไร
1. ค่าธรรมเนียมการสมัครสูง ผู้สมัครจะถูกหลอกให้จ่ายค่าฝึกอบรมและซื้อสินค้าเกินความต้องการและจะไม่ยอมคืนค่าสมัคร หรือค่าผลิตภัณฑ์ให้
2.ไม่สนใจที่จะขายสินค้าคุณภาพ ดังนั้น สินค้าส่วนใหญ่จะมีคุณภาพต่ำ ผลกำไรของระบบปิระมิดจะมาจากการรับสมัครสมาชิกใหม่ ซึ่งจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าที่มีราคาสูงเป็นจำนวนมาก
3. ไม่มีนโยบายรับซื้อสินค้ากลับคืนจากนักขายเพราะอาจทำให้ระบบปิระมิดล้มทลายลงได้
4. ร่ำรวยในระยะเวลาอันรวดเร็วบนความทุกข์ของผู้อื่น โดยผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่ฐานของปิระมิดจะเป็นผู้จ่ายเงินให้แก่คนไม่กี่คนที่อยู่ในระดับจุดยอดของปิระมิด ซึ่งธุรกิจรูปแบบนี้ไม่สามารถอยู่ได้ยาวนาน
5. สามารถซื้อตำแหน่งที่อยู่ในระบบได้
6. ระบบนี้จะไม่เน้นการขายสินค้าให้กับผู้บริโภค แต่ผลกำไรจะมาจากสมาชิกที่สมัครใหม่ซึ่งจะต้องซื้อสินค้าเพื่อกักตุน มิใช่เพราะสินค้ามีประโยชน์ หรือคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ถูกบังคับให้ซื้อตามระบบ สมาชิกใหม่จะต้องแบกรับภาระกับสินค้าที่ตนขายไม่ได้ และเมื่อระบบปิระมิดนี้ล้มทลายลง ก็จะไม่ได้รับเงินลงทุนกลับคืนมาเลย
7. ฉ้อฉลหลอกลวงให้คนเข้ามาในระบบ
8. ผู้เข้าร่วมจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการสมัครสูง หรือจ่ายค่าสินค้าซึ่งถูกบังคับให้ซื้อในตอนที่สมัคร
9. เน้นการรับสมัครสมาชิกใหม่เป็นหลัก โดยไม่สนใจการขายสินค้าและการบริการหลังการขาย แก่ลูกค้า
10. เป็นระบบที่ผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกาหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งเอเชีย

คราวนี้มาดูความแตกต่างระหว่างระบบ MLM และระบบปิรามิด บ้างครับเนื่องจากรูปแบบของระบบปิระมิด หรือแชร์ลูกโซ่อาจมีความใกล้เคียงกับลักษณะบางประการของการขายตรงระบบการตลาดหลายชั้น (MLM) จึงขอให้พิจารณาถึงความแตกต่างระหว่างระบบทั้งสองที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

  • เงินลงทุนและค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นธุรกิจต่ำ เพียงจ่ายเงินค่าสมัครเพื่อรับคู่มือความรู้ เอกสารฝึกอบรม และผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเท่านั้น หากต้องการลาออก บริษัทต้นสังกัดก็ยินดีคืนเงินค่าสมัคร และค่าผลิตภัณฑ์ที่ได้ซื้อไปเต็มจำนวนด้วย



  • จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากชนิดที่มีคุณภาพสูง ยอดขายจะมาจากการจำหน่ายสินค้า ได้ซ้ำหลายครั้ง และความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ ดังนั้นบริษัทจะทุ่มเทเงิน ลงทุนเพื่อการวิจัย ค้นคว้าและพัฒนา คุณภาพของสินค้า



  • รับประกันคุณภาพและความพอใจในตัวสินค้า ลูกค้าสามารถเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้หากไม่พึงพอใจภายในระยะเวลาที่กำหนด



  • ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเป็นสำคัญ เพราะ บริษัทต้องมีความรับผิดชอบต่อนักขาย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง



  • การจ่ายผลประโยชน์ รายได้ และตำแหน่งขึ้นอยู่กับการทำงานของนักขาย นั่นหมายถึง รายได้จะมาจากยอดขายที่ขายสินค้าได้



  • การก่อตั้งธุรกิจขึ้นอยู่กับการขายสินค้าคุณภาพ ซึ่งคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และบริษัทจะให้ความสนใจในการขยายตลาดให้กว้างออกไป



  • มีนักขายอิสระที่อาศัยการขายสินค้าเพื่อสร้างรายได้



  • มีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะมีข้อห้ามมิให้นักขายกักตุนสินค้า



  • นักขายจะเน้นในเรื่องการขายสินค้าและการให้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง



  • เป็นการขายสินค้าอีกรูปแบบหนึ่งนอกเหนือจากการขายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีก และเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้บริโภค นักขาย และบริษัทขายตรงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย



      ดูๆ ไปแล้วโครงสร้างของอาชีพในปัจจุบันก็เข้าข่ายปิรามิดเหมือนกันนะครับ ดังรูปด้านบน เช่น
     คนเข้าทำงานก่อนมักมีเงินเดือนและตำแหน่งสูงกว่าคนมาทีหลัง ทั้งที่คนมาทีหลังอาจทำงานเก่งกว่าหรือทำเยอะกว่าด้วยซ้ำไป แต่ไม่สามารถแซงคนที่มาก่อนได้ หรือแซงได้แต่ยากมากๆ
  • ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น